เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัด 35 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม 2568 เชลซี อันดับ 5 เปิด สแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้อย่าง ลิเวอร์พูล
เปิดฉากครึ่งแรกมาแค่ 3 นาที สาวกสิงห์บลูส์ใน เดอะ บริดจ์ ได้เฮกันสนั่นหลัง เชลซี ทะยานขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ โคล พาลเมอร์ ไหลออกขวาให้ เปโดร เนโต้ กระชากเข้ามาแล้วหักมาให้ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ซัดโล่งๆด้วยขวาเข้าไป
แมนยูฯ ฟอร์มดิ่ง! ไร้ชัย 6 นัดติด หล่นอันดับ 15 พรีเมียร์ลีก
ผลบอล เวสต์แฮม 1-1 สเปอร์ส (4 พ.ค. 68) : ไก่ยังฝืดไม่ชนะ 4 นัดติด ขุนค้อนแบ่งแต้มลอนดอนดาร์บี้
โมเมนต์สุดซึ้ง! พรีเมียร์ลีกเผยคลิปแฟนลิเวอร์พูลทั่วโลกร่วมฉลองแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ (ชมคลิป)
ท้ายครึ่งแรก โนนี่ มาดูเอเก้ เกือบพาทีมได้เม็ดที่สองหนีห่างหลังแตะหลบ อลีสซง ซัดเข้าไปแล้วแต่โดนจับล้ำหน้า ทำให้จบ 45 นาทีแรก เชลซี ขึ้นนำ ลิเวอร์พูล 1-0
ครึ่งหลัง นาที 56 แฟนบอลสิงห์บลูส์เฮกระหึ่มอีกหลัง สกอร์ของ เชลซี นำห่างแชมป์ 2-0 จากจังหวะที่ โคล พาลเมอร์ ลากหนี ซิมิกาส ถึงเส้นหลังก่อนปาดมาในกรอบกำลังจะถึง มาดูเอเก้ แล้วแต่โดน เอ็นโด บล็อคไว้บอลมาเข้าทาง ฟาน ไดค์ หวดสกัดแต่เจ้ากรรมไปติดพวกเดียวกันเองอย่าง จาเรลล์ ควอนซาห์ บอลกระเด้งเข้าประตูตัวเองไป
“หงส์แดง” พยายามรุกอย่างหนักเพื่อตีไข่แตกให้ได้ ซาลาห์ เรียกฟรีคิกได้นอกกรอบก่อน ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ วิ่งมาซัดเต็มข้อไปติดกำแพง จากนั้น นาที 67 ลิเวอร์พูล น่าได้ประตูไล่คืนมาสุดๆ หลัง ซาลาห์ บรรจงหยอดมาให้ ดาร์วิน นูนเญซ ขึ้นโขกเดี่ยวๆ แต่สตาร์อุรุกวัยสะบัดโหม่งหลุดกรอบออกไปอย่างหมดลุ้น
นาที 79 สิงห์บลูส์ ได้ลุ้นอีกหลัง โนนี่ มาดูเอเก้ ลากหนีเข้ากลางก่อนซัดไปติดบล็อค ควอนซาห์ บอลมาเข้าทาง ซานโช่ กดเน้นๆแต่ยังไม่ผ่านเซฟของ อลีสซง
นาที 85 หงส์แดง มาตีไข่แตกไล่มา 1-2 จนได้จากจังหวะได้เตะมุมทางด้านขวา อเล็กซิส แม็ค อลิสเตอร์ เปิดมาหน้าประตูให้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ โขกเข้าไปอย่างเด็ดขาด
ช่วงทดเจ็บ นาที 90+6 สิงห์บลูส์ มาได้ลูกที่จุดโทษหลัง จาเรลล์ ควอนซาห์ ไปรวบฟาวล์ใส่ ไกเซโด้ ล้มลงผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันทีก่อนที่ โคล พาลเมอร์ จะสังหารเข้าไปไม่พลาด พาเชลซี นำห่าง 3-1
จบเกม เชลซี ปราบแชมป์พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล อย่างสนุก 3-1 คว้าชัยในลีกที่ เดอะ บริดจ์ ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี เพิ่มโอกาสคว้าตั๋วลุย UCL หลังขึ้นมารั้งอันดับ 5 มี 63 แต้มเท่าสาลิกาดง ส่วน “หงส์แดง” จ่าฝูงที่การันตีแชมป์ไปแล้วเมื่อวีกก่อนแพ้นัดที่ 3 ของฤดูกาล ก่อนวันอาทิตย์หน้ากลับมาเปิดแอนฟิลด์รับมือ อาร์เซน่อล
รายชื่อ 11 ผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ – มอยเซส ไกเซโด้, เทรโวห์ ชาโลบาห์, ลีวาย โคลวิลล์, มาร์ก กูกูเรย่า – โรเมโอ ลาเวีย, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ – โนนี่ มาดูเอเก้, โคล พาลเมอร์, เปโดร เนโต้ – นิโกลัส แจ็คสัน
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, จาเรลล์ ควอนซาห์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, คอสตาส ซิมิกาส – ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, วาตารุ เอ็นโด, เคอร์ติส โจนส์ – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดีโอโก้ โชต้า, โกดี คักโป
,