ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง คืนวันอังคารที่ 6 พฤษภาคม 2568 อินเตอร์ มิลาน กลับมาเฝ้ารัง สตาดิโอ จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า รับมือ บาร์เซโลน่า หลังนัดแรกเสมอกันมาอย่างสุดเดือด 3-3 เกมนี้ชี้ชะตาหาทีมผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ จะเข้าไปพบผู้ชนะระหว่าง เปแอสเช หรืออาร์เซน่อล ในวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคมนี้
เปิดฉากครึ่งแรก ทั้งสองทีมเล่นอย่างระมัดระวัง รูปเกมอึดอัด ก่อนนาทีที่ 15 บาร์ซ่า ได้ลุ้นส่องเข้ากรอบหนแรกหลัง ลามีน ยามาล ลากเข้ากลางก่อนซัดด้วยซ้ายแต่ไปตรงตัว ยานน์ ซอมเมอร์ รับเข้าซองไว้ได้
อาร์เซน่อล สะดุ้ง! เดมเบเล่ ฟิตทันเกมชี้ชะตา UCL – เอ็นรีเก้ ลั่นพร้อมยิงอีกดอก
ยามาล แซง ราฟินญ่า! ตัวเต็งบัลลงดอร์ 2025 ล่าสุด ซาลาห์-เดมเบเล่ ยังตาม
เกร็ดก่อนเกม อินเตอร์ พบ บาร์เซโลน่า : ราฟินญ่า ลุ้นทาบสถิติ-สกอร์รวมมีลุ้นแตะ 10 ลูก
แต่แลว นาที 22 เสียงเชียร์ของสาวก “เนรัสซูรี่” ต้องดังสนั่นเมื่อ อินเตอร์ มิลาน เป็นฝ่ายทะยานขึ้นนำ 1-0 จากความผิดพลาดของแข้งบาร์ซ่าที่เสียบอลก่อนโดน เฟเดริโก้ ดิมาร์โก ตัดบอลแล้วแทงให้ เดนเซล ดุมฟรีส หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปเดี่ยวๆ ก่อนใจกว้างไหลมาให้ เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ ซัดโล่งๆ เข้าไปไม่พลาด
หลังจากเสียประตู บาร์ซ่า พยายามหาจังหวะพังตาข่ายไล่เจ๊า ได้ลุ้นจาก โอลโม่ แต่ซัดหลุดกรอบ นาที 35 ได้ลุ้นต่อหลังบีบจน เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ เสียบอลก่อนสวนกลับเร็วมาถึง โอลโม่ แทงทะลุให้ ลามีน ยามาล ซัดผ่านหน้าประตูหลุดกรอบออกไป
นาที 38 แฟนบอลเจ้าถิ่นเกือบได้เฮอีกหน เมื่อ เฮนริค มคิทาร์ยาน วอลเลย์ไม่จับนอกกรอบบอลพุ่งแรงถากเสาไกลออกไปแบบได้เสียว อีกสองนาทีต่อมา ดุมฟรีส ทุ่มไกลเข้ามาในกรอบ ตูราม โขกเช็ดก่อนบอลปลิ้นไปเข้าทางปืน ฮาคาน ชาลาโนลู ซัดเร็วถากเสาออกไปชนิดที่ เซสนี่ ได้แต่มองแล้ว
จากนั้นนาที 42 เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบโดน เปา กูบาร์ซี่ แนวรับบาร์ซ่าสกัดออกมา ผู้ตัดสินผายมือให้เล่นต่อ
ทว่าหลังจากนั้นเป่าหยุดเกมหลัง เลาตาโร่ ยังนอนเจ็บ และได้มีการเช็ก VAR ก่อนที่ผู้ตัดสินชาวโปแลนด์จะวิ่งไปเช็กจากจอข้างสนาม ก่อนภาพช้าชี้ชัดว่า เปา กูบาร์ซี่ สกัดไปโดนเท้าของ มาร์ตีเนซ ก่อน ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษเจ้าบ้านทันทีและเป็น และเป็น ฮาคาน ชาลาโนลู รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด พา อินเตอร์ นำบาร์ซ่าห่าง 2-0
จบครึ่งแรก อินเตอร์ มิลาน ออกนำ บาร์เซโลน่า 2-0 (สกอร์รวมสองนัด 5-3)
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง นาที 54 บาร์เซโลน่า คืนสู่เกมไล่ตีไข่แตกได้สำเร็จ จากสองฟูลแบ็กจากจังหวะที่ เกราร์ด มาร์ติน เปิดมาเสาไกลถึง เอริก การ์เซีย เสียบมุมเสาไกลอย่างงามหยดไล่เจ้าถิ่นมา 1-2 (สกอร์รวม บาร์ซ่า ไล่มา 4-5)
แถมบาร์ซ่า เกือบมาทวงประตูที่สองตามตีเสมอ จากจังหวะนาที 57 ที่อินเตอร์เสียบอลจากลูกเตะมุม โดน บาร์เซโลน่า สวนกลับเร็วจากหน้าบ้านตัวเองก่อนจังหวะสุดท้ายไหลมาโล่งๆ ให้ เอริค การ์เซีย ซัดไปติดเซฟ ยานน์ ซอมเมอร์ อย่างเหลือเชื่อ ทิ้งโอกาสทองไล่เจ๊าอย่างน่าเสียดาย
จนแล้วจนรอด “งูใหญ่” มาเสียเม็ดที่สองจนได้ หลังผ่านไปครบหนึ่งชั่วโมง จากจังหวะที่ เกราร์ด มาร์ติน จัดแอสซิสต์ที่สองในเกมนี้ครอสไปเสาไกลให้ ดานี่ โอลโม่ พุ่งมาโขกจมตาข่ายพา บาร์เซโลน่า ไล่ตีเสมอ 2-2
สถานการณ์ของ อินเตอร์ ไม่ดีขึ้นเลย นาที 68 เนรัสซูรี่ จ่ายบอลกันพลาดโดน ยามาล ฉกเข้าไปก่อนที่ เฮนริค มคิทาร์ยาน จะตามไปเสียบจนไอ้หนูวัย 17 กระโดดตัวลอยเข้าไปในเขตโทษ ผู้ตัดสินทีแรกเป่าให้จุดโทษก่อนเช็ก VAR แล้วยืนยันเป็นแค่นอกกรอบ
นาที 87 สาวกบาร์ซ่าดีใจกันลั่นเมื่อ เปดรี้ แทงออกซ้ายให้ ราฟินญ่า ซัดไปติดเซฟ ซอมเมอร์ ก่อนในทีแรกก่อนบอลกระดอนมาเข้าทางปืนอีกทีซัดซ้ำเข้าไปเสียบเสาไกลพา บาร์ซ่า แซงขึ้นนำ 3-2
เกมทำท่าว่าจะเป็นทีมเยือนบุกมาเฮ แต่แล้ว ช่วงนาที 90+3 อินเตอร์ มิลาน ไม่ยอมง่ายๆ มาไล่เจ๊า 3-3 สำเร็จจากจังหวะที่ เดนเซล ดุมฟรีส ปาดมาเสาแรกให้ ฟรานเชสโก้ อาแชร์บี้ ซัดเสาแรกเข้าไปชนิดเหลือเชื่อ
จบ 90 นาที เสมอ 3-3 สกอร์รวมสองนัดเสมอกัน 6-6 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีกสามสิบนาที
ช่วงต่อเวลาฯ นาที 99 แฟนเนรัสซูรี่เฮลั่นสนามเมื่อเจ้าถิ่น อินเตอร์ มิลาน มาออกนำ 4-3 จากความสามารถของ มาร์กกุส ตูราม ที่พาบอลเข้าไปในเขตโทษก่อนจ่ายมาเสาแรกให้ เมห์ดี้ เตเรมี่ ตั้งบอลให้ ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่ ตัวสำรองซัดเข้าไปอย่างเยือกเย็น
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่มเติม จบเกม อินเตอร์ มิลาน เอาชนะ บาร์เซโลน่า ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 4-3 (สกอร์รวมสองนัด 7-6) ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ UCL อีกครั้งในรอบ 3 ปี โดยรอพบผู้ชนะระหว่าง เปแอสเช หรืออาร์เซน่อล ในวันเสาร์ที่ 31 พ.ค.นี้ ส่วน บาร์เซโลน่า อกหักต้องชวดเข้าชิงในรอบ 10 ปี หยุดเส้นทางลุ้น 3 แชมป์ใหญ่ของฤดูกาล ต้องกลับไปลุ้นแชมป์ลีก โดยมีคิวดวลกับ เรอัล มาดริด ในศึก เอลกลาซิโก้ วันอาทิตย์นี้
รายชื่อ 11 ผู้เล่นทั้งสองทีม
อินเตอร์ (3-5-2) : ยานน์ ซอมเมอร์ – ยานน์ บิสเซ็ค, ฟรานเชสโก้ อาแชร์บี้, อเลสซานโดร บาสโตนี่ – เดนเซล ดุมฟรีส, นิโคโล่ บาเรลล่า, ฮาคาน ชาลาโนลู, เฮนริค มคิทาร์ยาน, เฟเดริโก้ ดิมาร์โก – เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ, มาร์กกุส ตูราม
บาร์เซโลน่า (4-2-3-1) : วอยเช็ค เซสนี่ – เอริก การ์เซีย, เปา กูบาร์ซี่, อินญีโก้ มาร์ตีเนซ, เกราร์ด มาร์ติน – เฟร็งกี้ เดอ ยอง, เปดรี้ – ลามีน ยามาล, ดานี่ โอลโม่, ราฟินญ่า – เฟร์ราน ตอร์เรส
,
