มันมีทั้งความบ้าคลั่ง, ความดราม่า และความไม่คาดฝัน ว่ามันจะเกิดขึ้นในเกมเกมเดียว
เฉพาะรอบตัดเชือก นี่คือเกมที่มีประตูรวมเยอะที่สุด เท่ากับคู่ของ ลิเวอร์พูล กับ โรม่า เมื่อซีซั่น 2017/18 (7-6) หรือนับรวมรอบอื่น ๆ ก้มี บาเยิร์น มิวนิก 12-1 สปอร์ติง ลิสบอน ตอนฤดูกาล 2008/2009
อินเตอร์ vs บาร์ซ่า ยิงรวม 13 ลูก! ทาบสถิติมากสุดรอบตัดเชือก UCL
แฟนบาร์ซ่าทัวร์ลงใส่อเราโฮ่หลังตกรอบ ชปล. เจ้าตัวปิดคอมเมนต์หนี
เปดรี้โวยเปาเข้าข้างอินเตอร์ จี้ยูฟ่าตรวจสอบหลังบาร์ซ่าตกรอบ
แต่หากพูดถึงความตื่นเต้น และความสูสี คงต้องบอกว่าสองเกมนั้นยังสู้เกมนี้ไม่ได้…
อินเตอร์ ออกนำก่อนจาก เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ในนาทีที่ 21 แล้วต่อมา ฮาคาน ชาลาโนลู ซัดจุดโทษเข้าไปในนาทีที่ 45
อย่างไรก็ตาม บาร์ซ่า ก็โต้ตอบจาก เกราร์ด มาร์ติน ที่เปิดให้ เอริก การ์เซีย ซัดสุดงามในนาทีที่ 54 และอีกหกนาทีต่อมา มาร์ติน คนเดิม ก็สุดแม่นให้ ดานี่ โอลโม่ โขกตีเสมอ
บาร์เซโลน่า คิดว่าพวกเขาจะสร้างปาฏิหาริย์สำเร็จ หลัง ราฟินญ่า ตามซ้ำลูกยิงของตัวเองได้ในนาที 87 แต่แล้ว อินเตอร์ ที่ดูหมดแรงไปกลับมาได้ ฟรานเชสโก้ อาแชร์บี้ ปราการหลังวัย 37 ปียิงประตูตีเสมอในนาทีที่ 90+3 ส่งให้ทั้งสองทีมไปเล่นกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ
ท้ายสุด อินเตอร์ หยุดความหวังทริปเปิลแชมป์ของ บาร์ซ่า ไว้ได้ด้วยลูกยิงของ ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่ และจะได้เดินทางสู่มหานครมิวนิค เพื่อชิงถ้วยหูใหญ่ใบนี้เป็นครั้งที่สองในรอบสามปี
…
พลพรรค “งูใหญ่” ของ ซิโมเน่ อินซากี้ ดูเหมือนจะหมดหวังไปแล้ว พวกเขาเสียสามประตูรวดคล้ายกับเกมแรกที่ มอนต์จูอิก เมื่อสัปดาห์ก่อน
อินเตอร์ ที่เป็นทีมที่อายุเฉลี่ยมากสุดใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ปีนี้ ดูหมดแรงและแทบหาทางกลับมาไม่เจอ เว้นแต่ว่าจะมี “ปาฏิหาริย์”
แล้ว “ปาฏิหาริย์” ก็มาในรูปแบบของบอลยาว ที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่เมื่อ มาร์กกุส ตูราม เก็บบอลจังหวะสอง แม้จะจ่ายพลาด เดนเซล ดุมฟรีส กลับไม่ยอมแพ้ ไล่บอลจนถึงที่สุด
ดุมฟรีส คือฝันร้ายของ บาร์ซ่า จากทั้งสองเกมนี้ แล้วมันยังไม่จบแค่นั้น…
ในเขตโทษ ที่แม้ไม่มี มาร์ตีเนซ ที่ถูกถอดออกไป แต่ยังมี อาแชร์บี้ กองหลังที่รับบทกองหน้า ยิงประตูตีเสมอ 3-3 ส่งให้เกมเข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษ
สองตัวสำรองอย่าง เมห์ดี้ เตเรมี่ และ ฟรัตเตซี่ คือคู่หูที่ประสานงานกันทำประตูชัยสุดเหลือเชื่อ
ขณะที่ ยานน์ ซอมเมอร์ ผู้รักษาประตูวัยเก๋าก็โชว์ฟอร์มสุดยอด โดยเฉพาะชอตป้องกันลูกยิงของ ลามีน ยามาล
…
2 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ของ ดุมฟรีส
การผ่านบอลเข้าเขตโทษ, การวิ่งสอดจากลูกจ่ายทะลุไลน์ แทบจะหากองหลังที่ทำแบบนี้ได้น้อยมาก แต่ วิงแบ็กคนดัตช์ แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพทางฝั่งขวาในค่ำคืนอันแสนบ้าคลั่ง
เขามีความเร็ว, ร่างกายทรงพลัง และมีความฉลาดในการเติมเกม
การเปิดให้ เลาตาโร่ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน จังหวะนั้น ดุมฟรีส เตรียมวิ่งทำลายแนวรับทันทีที่ เฟเดริโก้ ดิมาร์โก ตัดบอลได้ เขาไม่เห็นแก่ตัว ซึ่งฤดูกาลนี้ ดุมฟรีส เป็นนักเตะที่วิ่งเข้าสู่เขตโทษถึง 135 ครั้งรวมทุกรายการ
ถึงกระนั้น การเติมเกมขนาดนั้น มันก็ต้องแลกมาด้วยการเปิดพื้นที่เกมรับของตัวเองจนหลุดตำแหน่งลูกที่ ราฟินญ่า ทำประตูได้ แต่ท้ายสุดเขาก็ตัดบอลจาก มาร์ติน และเปิดให้ อินเตอร์ ตามตีเสมอได้ในช่วงทดเจ็บ
อินเตอร์ เล่นโต้กลับได้น่ากลัว กองหน้าสองคนลงต่ำเก็บบอลได้ กองกลางวิ่งสอดดี กองหลังก็เติมสูง แต่ไม่มีใครมีอิมแพคเท่า ดุมฟรีส
พลังทำลายล้างของเขาเห็นชัดเหลือเกิน…
ลูกจุดโทษที่เกิดขึ้น แสดงให้เห็นว่า VAR มีประโยชน์มากเพียงใด
“ตอนแรกผมคิดว่าเป็นการสกัดที่ดีนะ แต่ VAR ก็เปลี่ยนเกมได้แบบนี้แหละ”
นั่นคือประโยคคำพูดของ มาร์ค แคล็ทเทนเบิร์ก อดีตผู้ตัดสินที่ว่าไว้กับ Amazon Prime
ตอนแรกดูเหมือน เปา กูบาร์ซี่ เด็กวัย 18 ของ บาร์ซ่า เข้าสกัด เลาตาโร่ แบบใสสะอาดจนควรได้รับเสียงปรบมือ และ ซีมอน มาร์ซีเนียค ผู้ตัดสินก็ปล่อยให้เล่นต่อ
แต่จากภาพช้า กลับพบว่า กูบาร์ซี่ เตะเท้าขวาของ เลาตาโร่ ก่อนถึงบอล
เมื่อเปาชาวโปล ไปดูจอมอนิเตอร์ เขาใช้เวลาไม่นานก็เป่าเป็นจุดโทษ แม้ผู้เล่น บาร์ซ่า จะโวย แต่มาร์ซีเนียค ก็อธิบายโดยใช้มือชี้ว่ามีการโดนเท้าก่อนถึงบอล
ซึ่งจากภาพรีเพลย์แล้ว คงไม่มีใครกล้าไปค้านมากนัก
ถามว่า อินเตอร์ รับมือ ยามาล ได้อย่างไร?
“เนรัซซูรี่” ดูพร้อมมากขึ้นจากเลกแรกสำหรับการรับมือ ยามาล
อเลสซานโดร บาสโตนี่ บอกว่า การวิเคราะห์วิดีโอทั้งหมดที่พวกเขาทำเพื่อรับมือ ยามาล ก่อนการเจอกันครั้งแรกนั้น มันแทบไม่มีค่าอะไรเลย เมื่อได้เจอกับของจริง
ทว่าเลกสอง อินเตอร์ มีความเข้าใจการรับมือ ยามาล มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยามาล ก็ยังทำได้ตามใจในหลายจังหวะ เปิดเกมมาได้บอกจนแฟนบอลเจ้าถิ่นใจหล่นตาตุ่ม อีกทั้งยังเลี้ยงผ่าน ดิมาร์โก กับเฮนริค มคิทาร์ยาน ได้ง่าย ๆ
โชคดีสำหรับ อินเตอร์ ในครึ่งแรก ยามาล ยังไม่เฉียบคมมากพอ หรือเพื่อนร่วมทีม บาร์ซ่า เองก็ไม่ช่วยอะไรได้มากนัก
บางจังหวะเขาควรยิงแต่เลือกจ่าย แถมโดน บาสโตนี่ เข้าสกัดหนักให้รู้ว่าตัวเองตระหนักดีกับการดวลกับหนึ่งในเซ็นเตอร์แบ็กที่ดีที่สุดใน ยุโรป
ยามาล เป็นคนเริ่มเกมสวนกลับจากหน้ากรอบเขตโทษตัวเองจนจบด้วย การ์เซีย ที่เกือบยิงอีกลูก จากนั้นก็เลี้ยงผ่าน การ์ลอส ออกุสโต้ และเรียกฟาวล์จาก บาสโตนี่ ได้อีกครั้ง
สิ่งเล็ก ๆ หล่อรวมกันกลายเป็นฟอร์มที่ดีอีกนัด มคิทาร์ยาน และแฟนอินเตอร์ถึงกับภาวนาให้ VAR ยกเลิกจุดโทษของ ยามาล ในครึ่งหลัง และสุดท้ายก็รอดหวุดหวิด
ฮีโร่แบ็กโนเนมของบาร์ซ่าก็ยังไม่พอ
…
มันควรจะเป็นเกมที่น่าจะจดจำเอามาก ๆ ของฟูลแบ็ก “เจ้าบุญทุ่ม” ทั้งสองข้าง
ปกติแล้ว ฌูลส์ กุนเด้ จะยืนแบ็กขวา และ อเลฆานโดร บัลเด้ ยืนซ้าย ทว่าทั้งคู่เกิดบาดเจ็บ
เอริค การ์เซีย กับ เกราร์ด มาร์ติน จึงต้องรับหน้าที่แทน ซึ่งสองคนนี้ก็ทำผลงานได้ดี
มาร์ติน เปิดให้ การ์เซีย ยิงตีตื้น 2-1 และอีกลูกก็เปิดให้ โอลโม่ โขกตีเสมอ
มาร์ติน อาจตั้งใจเปิดถึง โอลโม่ ลูกแรก แต่ การ์เซีย เข้ามาซัดวอลเลย์เสยเพดานประตูอย่างงดงาม
มาร์ติน ที่เลกแรกโดนเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ครึ่งแรก วันนี้กลับมามีความมั่นใจและโดดเด่น โดยเฉพาะครึ่งหลังที่เขาเติมเกมฝั่งซ้ายได้ยอดเยี่ยม
แต่น่าเสียดายที่เขาพลาดในช่วงทดเจ็บ ถูก ดุมฟรีส ฉกบอลและเปิดให้ อาแชร์บี้ ทำประตูตีเสมอ นาทีที่ 90+3
และนั่นคือจุดเปลี่ยนสุดท้ายของค่ำคืนอันบ้าคลั่งนี้
เราผ่านเกมคัมแบ็กปาฏิหาริย์มาหลายต่อหลายนัด
ไม่ว่าเกมที่ ลิเวอร์พูล 4-0 บาร์เซโลน่า ที่ แอนฟิลด์, บาร์ซ่า พลิกนรกกลับมาชนะปารีส, นัดชิงปี 2005 ที่ ลิเวอร์พูล คัมแบ็ก ที่ อิสตันบูล, แมนยู ยิงแซง บาเยิร์น ทดเจ็บในปี 1999 หรือประตูของ ลูกัส มูร่า กับ อาแจ็กซ์ ในนาทีสุดท้าย
และเกมนี้ก็เป็นอีกเกมหนึ่งที่ติดหนึ่งในนั้น
HOSSALONSO
,