ใครจะไป ซาน มาเมส ยกมือขึ้น !!

ซาน มาเมส คือสนามใหม่ที่เปิดใช้งานมาเพียง 11 ปีเศษ (16 กันยายน 2013) แทนที่ของเดิมคือ ซาน มาเมส เดิมที่ใช้งานมายาวนานตั้งแต่ปี 1913

สโมสรแอธ.บิลเบา ทุบ ซาน มาเมส เดิมและสร้าง ซาน มาเมส ใหม่ขึ้นในพื้นที่ใกล้เคียงกัน โดยสนามใหม่ใช้พื้นที่โกดังเก่าริมแม่น้ำเนเบียง ที่ได้รับคำแนะนำจาก นอร์แมน ฟอสเตอร์ สถาปนิกชื่อดังชาวอังกฤษ ทำให้ ซาน มาเมส แห่งใหม่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสนามที่มีทิวทัศน์สวยที่สุดสนามนึงของยุโรป 

ประวัติศาสตร์ต่างกัน!สโคลส์ เชื่อ แมนยู ดับ สเปอร์ส ซิวแชมป์ ยูโรปา
ผลงานลีกสวนทาง!แมนยู-สเปอร์ส จ่อเป็นแชมป์ ยูโรปา ด้วยอันดับแย่สุด
ร้างความสำเร็จมานาน!อังเก้ มองต่าง แมนยู เรื่องแชมป์ ยูโรปา

เมื่อสร้างเสร็จใหม่ๆ ผู้คนยังไม่คุ้นชิน ก็จะเรียกสนามใหม่ว่า ‘นู ซาน มาเมส’  ซึ่งคำว่า ‘นู’ (nou) นั้นแปลว่า ‘ใหม่’ เหมือน กัมป์ นู ของ บาร์ซ่า อะไรแบบนั้น 

แต่พอเวลาผ่านไป ผู้คนก็เริ่มกลับมาเรียกแบบเดิมว่า ซาน มาเมส ซึ่งก็สมเหตุสมผลดี

ซาน มาเมส ได้รับสถานะเป็นสนามกีฬาประเภท 4 ซึ่งเป็นสนามที่ได้รับคะแนนสูงสุดจาก ยูฟ่า สามารถจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป และรอบชิงชนะเลิศของ ยูโรปาลีก ได้

แต่ไม่สามารถจัด ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศได้ เพราะ ยูฟ่า กำหนดว่านัดชิง ชปล. นั้นสนามจะต้องมีความจุ 70,000 ที่นั่งขึ้นไป ซึ่ง ซาน มาเมส ปัจจุบันรองรับแฟนบอลได้ทั้งสิ้น 53,289 คน

ชื่อสนาม ซาน มาเมส (San Mamés) มาจากสนามแห่งแรกของสโมสรตั้งอยู่ใกล้กับ อาสนวิหาร ซานตา กาซ่า มิเซรีกอร์เดีย หรือเรียกสั้นๆว่า ซาน มาเมส ซึ่งเป็นนักบุญในศาสนาคริสต์

ซาน มาเมส มีชีวิตอยู่ระหว่าง ค.ศ. 259 -275 เนื่องจากเป็นคริสเตียนจึงถูกจักรพรรดิโรมันเอาเรเลียโน่จับไปทรมานเพราะถูกมองเป็นภัยคุกคามทางการเมือง 

ตำนานเล่าว่า ซาน มาเมส ถูกจับโยนให้ฝูงสิงโต กิน แต่เขากลับทำให้เหล่าสิงโตเชื่องและหมอบแทบเท้าเขาได้

ปี 1929, หลังชัยชนะนัดสำคัญของ แอธ.บิลเบา หนังสือพิมพ์เอล ลิเบรัล ได้พาดหัวว่า “เหล่าสิงโตแห่งซาน มาเมส กลับมาคำรามอีกครั้ง” 

จากนั้นเป็นต้นมานักเตะแอธ.บิลเบาก็ถูกตั้งฉายาว่า โลส เลโอเนส หรือเหล่าสิงโตผู้พิทักษ์นักบุญซาน มาเมส 

เล่ามาถึงตอนนี้จึงพูดได้เต็มปากว่าสนาม ‘ซาน มาเมส’ และ ฉายา ‘โลส เลโอเนส’ ล้วนมาจากความเชื่อทางศาสนาของผู้คนในบิลเบาทั้งสิ้น 

………………………………..

ซาน มาเมส ตั้งอยู่ในเมืองบิลเบา จังหวัดบิสกาย่า แคว้นบาสก์ ซึ่งที่คนที่นั่นเรียกดินแดนตัวเองว่า ‘ประเทศบาสก์’ (pais vasco)

เมืองบิลเบา ถูกปรับปรุงยกระดับครั้งใหญ่ในช่วงทศวรรษที่ 90 ทำให้เป็นเมืองที่ทันสมัย แต่ก็ยังมีความเป็นธรรมชาติสูงมาก 

มีภูมิทัศน์สวยงาม(มาก) มีป่าเขา มีแม่น้ำสายใหญ่ที่ชื่อว่า ‘เนเบียง’ ไหลผ่าน

ท่ามกลางความงดงามของธรรมชาติ บิลเบา ก็มีพิพิธภัณฑ์ศิลปะระดับโลกอย่าง guggenheim ที่มีงานศิลปะเจ๋งๆให้เดินชมได้ทั้งวัน ซึ่งไม่ว่าใครหากได้เห็นครั้งแรกล้วนต้องตะลึง

ลำพังแค่ตัวอาคารก็น่าทึ่งแล้ว แฟนสเปอร์และแมนฯยูถ้าได้ไปเยือนต้องไม่พลาดที่จะเซลฟี่กับเจ้า puppy สุนัขตัวโตที่เต็มไปด้วยดอกไม้ ผลงานเอกของ Jeff Koons

นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีงานมาสเตอร์พีซอีกหลายชิ้น อย่าง Maman (Ama) ของ Louise Bourgeois

Double Torqued Ellipse งานเหล็กดัดขนาดยักษ์ของ Richard Serra หรือ งานล้ำสมัย Installation for Bilbao ของ Jenny Holzer 

…………………………………………………

การเดินทางไป บิลเบา

ปัจจุบันยังไม่มีสายการบินตรงจาก กรุงเทพ ไป บิลเบา 

เส้นทางที่แนะนำคือ กรุงเทพ-มาดริด ราคาประมาณ 28,000 บาท (เลือกเอาจะทรานซิสที่ตะวันออกกลางหรือสักเมืองในยุโรป) จากนั้นต่อเครื่องไป บิลเบา

ราคาค่าตั๋วเครื่องบินจาก มาดริด ไป บิลเบา อยู่ราว 54-108 ยูโร เวลาที่ใช้ในการเดินทางคือ 1 ชั่วโมง บวกลบไม่เกิน 5 นาที (ถือว่าถูกและสะดวกมาก)

เครื่องบินไม่ชอบ ชอบนั่งรถไฟ ! อยากชมป่าเขาลำเนาไพรที่ ซูบิเมนดี้ รักนักหนา ไปได้มั๊ย ?

ตอบให้ว่า “ไปได้ครับ” 

แต่ยุ่งยากและใช้เวลานานกว่า

เพราะเมื่อคุณแลนดิ้งที่สนามบินบาราฆาสใน มาดริด แล้ว คุณจะต้องนั่งรถไฟใต้ดินจากสนามบิน (สาย 8 สีชมพู) ไปแล้วเปลี่ยนสายอีกเพื่อไปให้ถึง สถานี chamartin (แถวๆสนามเบร์นาเบว) เพื่อขึ้นรถไฟอีกกระทอก ซึ่งเบ็ดเสร็จกิจเวลาอย่างต่ำ 2 ชั่วโมง และยิ่งกับคนที่ไม่ชำนาญทางก็อาจ 3 ชั่วโมงขึ้นไป

การเดินทางโดยรถไฟจาก มาดริด ไป บิลเบา นั้น ใช้เวลานาน

เนื่องจากเส้นทางระหว่างสองเมืองนี้ยังไม่มี AVE หรือรถไฟความเร็วสูง (จาก บาร์เซโลน่า ไปบิลเบา ก็ไม่มีเช่นกัน) มีแต่รถไฟธรรมดาที่ใช้เวลาตั้งแต่ 4 ชั่วโมง 50 นาที หรือบางขบวนก็ 9 ชั่วโมง 

แต่ถ้าใครมีเวลา ก็ไม่มีปัญหา ค่าใช้จ่ายประมาณ 40-55 ยูโร

………………………………………………

ถึง สนามบิน แล้ว เข้าตัวเมืองยังไง ?

บิลเบา เป็นเมืองที่มีระบบขนส่งสาธารณะครบครัน แต่ไม่มีรถไฟใต้ดินเชื่อมต่อระหว่างสนามบินกับตัวเมืองเหมือน มาดริด หรือ บาร์เซโลน่า 

อย่างไรก็ตาม Bilbao Airport ห่างจากตัวเมืองแค่ 11 กิโลเมตรเท่านั้น

จากสนามบินเข้าตัวเมือง มีการเดินทางให้เลือก 3 วิธี

1.แท็กซี่ ราคาตั้งแต่ 25 ยูโร (ขึ้นอยู่กับขนาด) ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที

2.รถเมล์ ราคา 4.5 ยูโร นั่งสาย A3247  ใช้เวลาประมาณ 25 นาที

3. เดินเท้า ไม่มีค่าใช้จ่าย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 58 นาที 

……………………………………….

ไป สนามซาน มาเมส ยังไง ?

รถเมล์ นั่งสาย 28, A3411, A3414 และ A3915

รถไฟใต้ดิน นั่งไปลงสถานี Santimami-San Mamés

รถราง นั่งไปลงสถานี Estadio de San Mamés

ส่วนใครสะดวกนั่งแท็กซี่ก็สบายๆครับ ตัวเมืองบิลเบาไม่ได้ใหญ่มาก ราคาน่าจะสัก 8-10 ยูโร ถือว่าไม่แพง 

“a estadio de san mames por favor” 

(อา เอสตาดิโอ เด ซาน มาเมส ปอร์ ฟาบอร์)

(ไปสนาม ซาน มาเมส ครับ/ค่ะ)

ประโยคง่ายๆ ท่องไว้ใช้ครับ 

……………………………………………………

ไป บิลเบา ควรกินอะไร ?

ควรไปลอง pintxo (ปินโช่) อาหารคำเล็กๆ คล้ายของว่าง มีหน้าให้เลือกหลากหลาย เหมือน tapas ของคนสเปน แต่คนบาสก์เรียกว่า ปินโช่ ลักษณะเด่นคือมีไม้เสียบ ซึ่งคำว่า ปินโช่ นี้แปลตรงตัวว่า ‘เสียบ’ นั่นเอง

เส้นทางสาย pintxo (ปินโช่) ที่แนะนำคือ

1.BOCADOS DEL CASCO VIEJO

2.El Mercado de la Ribera y sus gastrobares

3.LEDESMA

มีอะไรแนะนำอีก ?  บิลเบา ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเล ดังนั้นอะไรที่มาจากทะลกินแม่งให้หมดครับ อร่อยทุกอย่าง

ส่วนเครื่องดื่มนั้น

ไวน์ แนะนำให้ลอง El chacolí (ไวน์ขาว) เป็นไวน์ท้องถิ่นของบิลเบา 

เบียร์ แนะนำ Gertrudis, Old Black, Hey Hop, Negua, Udazkena, Trini-Trolueno แต่ป๊อบสุด หากินง่าย อร่อย (สำหรับผู้เขียน)คือ Estrella Galicia (เปรี้ยวปากเลย) 

………………………………………………….

โรงแรมที่พัก

อันนี้แล้วแต่กำลังทรัพย์และความสะดวกเลย แต่จากประสบการณ์ก็ควรจะต้องเป็นโรงแรมในตัวเมืองจะดีที่สุด ทว่าก็ต้องทำใจเรื่องราคาครับ

โรงแรมดีๆ เรตปกติคืนนึงอาจจะสัก 3,000-4,000 บาท แต่มาในช่วงนัดชิงยูโรป้าแบบนี้ คุณอาจจะโดนล้มทับด้วยราคาคืนละ 10,000 ขโยกไปจนถึง 40,000 บาทได้

(อันนี้ช่วยไม่ได้ แล้วแต่บุญแต่กรรมที่ทำกันมา)

………………………………….

สุดท้ายไป บิลเบา ต้องทำตัวอย่างไร ?

ก็ทำตัวปกติล่ะครับ เคารพสถานที่ เคารพผู้คน เคารพศาสนาเขา 

อย่าไปพูดว่า สเปน ดีกว่ายังงั้นยังงี้

แฟนแมนยู ก็เบาๆหน่อย เพราะพวกแกเพิ่งชนะเขามา อาจโดนข้อหาหมั่นไส้ได้ 

อย่าเอาธงสเปน หรือ ธงเรอัล โซเซียดาด เดินโบกไปโบกมา

ไปบิลเบา…เบาได้เบาฮะ

#เจมส์ลาลีกา

,