ผู้รักษาประตู : เอมิเลียโน่ มาร์ตีเนซ (แอสตัน วิลล่า)
โชว์ฟอร์มหนึบพา แอสตัน วิลล่า เก็บคลีนชีตและชัยชนะได้เหนือ ฟูแล่ม
เด็กหงส์จะบ่นทำไม? ส่อง ลิเวอร์พูล หลังคว้าแชมป์แล้ว
จะเอายังไงต่อ? 5 สิ่งที่ ลิเวอร์พูล ต้องทำหลังเสีย เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
เชลซี เตรียมจับ ไกเซโด้ ต่อสัญญาใหม่ เพิ่มค่าเหนื่อยลุ้นตั๋ว ชปล.
กองหลัง : มอยเสส ไกเซโด้ (เชลซี)
ออกสตาร์ทด้วยแบ็กขวา และคอยขยับเข้ากลางเพื่อเพิ่มกำลังพลตรงมิดฟิลด์ทำให้ เชลซี ได้เปรียบ ลิเวอร์พูล ตรงจุดนี้
กองหลัง : ดีน เฮาเซ่น (บอร์นมัธ)
โขกประตูสุดสวย และยังเล่นเกมรับได้ดี ไม่แปลกที่บรรดาทีมใหญ่หมายตา
กองหลัง : ยอสโก้ กวาร์ดิโอล (แมนซิตี้)
บล็อตบนเส้นช่วยให้ แมนซิตี้ ไม่เสียประตู และยังคอยหยุดเกมรุกของ วูล์ฟส์ ได้ดีด้วย
กองกลาง : โรเมโอ ลาเวีย (เชลซี)
ทั้งตัดบอล คุมเกมตรงแดนกลางให้ เชลซี ได้อยู่หมัด มีลูกผ่านบอลที่ดีเอามาก ๆ
กองกลาง : เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ (เชลซี)
จบสกอร์ให้ทีมขึ้นนำตั้งแต่ต้นเกม และขับเคลื่อนแดนกลางจน ลิเวอร์พูล คุกคามแทบไม่ได้
กองกลาง : เควิน เดอ บรอยน์ (แมนซิตี้)
นับถอยหลังเวลากับ แมนซิตี้ และเกมนี้ก็สอยสกอร์เป็นประตูชัยให้ต้นสังกัดเอาชนะ วูล์ฟส์
กองกลาง : เควิน ชาเด้ (เบรนต์ฟอร์ด)
เหมาสองประตูพา เบรนต์ฟอร์ด อัด แมนยู และนี่เป็นประตูที่ 10 ของเขาไปแล้วในฤดูกาลนี้
กองหน้า : อเลฮานโดร การ์นาโช่ (แมนยู)
โดดเด่นสุดในทีม แมนยู จัดแอสซิสต์ และทำสกอร์เอง
กองหน้า : เจมี่ วาร์ดี้ (เลสเตอร์)
ปลดล็อกประตูและชัยชนะให้แก่ เลสเตอร์ ซิตี้ รวมถึงเป็นประตูแรกในรอบ 12 เกมของ วาร์ดี้ อีกด้วย
กองหน้า : โคล พาลเมอร์ (เชลซี)
กลับคืนฟอร์มเก่ง นอกจากจุดโทษที่ทำได้แล้ว ยังคอยเล่นงานเกมรับ ลิเวอร์พูล ได้ดีอีก
,