พลันที่ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือทีมชาติไทย ประกาศรายชื่อผู้เล่นชุดลุย ฟีฟ่า เดย์ มิถุนายน 2025 – ‘SIAMSPORT’ จึงขันอาสามาวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ที่เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่น จะจัดตัวลงสนาม ไปดูกันว่าใครมีโอกาสที่จะได้โชว์ฟอร์ม 2 นัด ในช่วงเดือนหน้ากัน!!
สำหรับโปรแกรมของทีมชาติไทย ใน ฟีฟ่า เดย์ มิถุนายน 2025 มีดังนี้
อินเดียเรียก 28 แข้งลุยอุ่นเครื่องไทย นำทัพโดย “เชตรี” หอกวัย 40 ปี
ชนาธิป-พีรดนย์นำทัพ! อิชิอิ หั่นชื่อศุภณัฏฐ์-มิคเกลสัน-วีระเทพ หลุดทีมชาติไทยลุยฟีฟ่าเดย์ มิ.ย.
โค้ชเช กำชับจอมเตะยุวชนไทยเล่นเต็มที่ ลุยศึกเทควันโดยุวชนโลก 2025
วันพุธที่ 4 มิถุนายน พบ อินเดีย I สนามกีฬาธรรมศาสตร์-รังสิต I 19:30 น. (เกมกระชับมิตร)
วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พบ เติร์กเมนิสถาน I เคอเปดด๊าก สเตเดี้ยม I 22:00 น. (เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก)
ทั้ง 2 เกม ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐทีวี HD (ช่อง 32) และ BG SPORTS (Youtube)
ผู้รักษาประตู
นักเตะที่เรียกติดทีม
– กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล (ราชบุรี เอฟซี)
– ปฏิวัติ คำไหม (แบงค็อก ยูไนเต็ด)
– สรานนท์ อนุอินทร์ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล กลับมาอยู่ในทัพช้างศึกอีกครั้ง หลังจาก ฟีฟ่า เดย์ มีนาคม เป็น ภูวดล พลสงคราม จอมหนึบจาก อยุธยา ยูไนเต็ด ที่พลิกโผเข้ามา
อย่างไรก็ตาม แม้นายด่าน ราชบุรี เอฟซี จะมีชื่อในทีมชาติไทย แต่เขาน่าจะต้องรอโอกาสต่อจาก สรานนท์ อนุอินทร์ โดยมี ปฏิวัติ คำไหม ยืนเป็นมือหนึ่งค่อนข้างแน่
ตัวจริงที่คาด : ปฏิวัติ คำไหม
เซนเตอร์ฮาล์ฟ
นักเตะที่เรียกติดทีม:
– ชินภัทร ลีเอาะ (ราชบุรี เอฟซี)
– ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ (เมืองทอง ยูไนเต็ด)
– มาร์โค บัลลินี (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
– เอเลียส ดอเลาะ (บาหลี ยูไนเต็ด, อินโดนีเซีย)
ด้วยความที่ โจนาธาร เข็มดี เซนเตอร์ฮาล์ฟฟอร์มแจ่มนั้นได้รับบาดเจ็บ ทำให้แนวรับมีช่องโหว่ทันที แต่ยังดีที่ เอเลียส ดอเลาะ ปราการหลังร่างยักษ์ยังพร้อมเป็นตัวเลือกแรกให้ มาซาทาดะ อิชิอิ เลือกใช้
ทว่าสิ่งที่น่าสนใจคือพาร์ตเนอร์ของ ดอเลาะ นี่แหละ เพราะผู้เล่นที่กุนซือชาวญี่ปุ่น เรียกตัวมานั้นประสบการณ์ในระดับนานาชาติน้อยนิดเอามากๆ
ชินภัทร ลีเอาะ เพิ่งประเดิมเกมแรกในชีวิตให้ทัพช้างศึกไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ ถูกเรียกมาซ้อมกับทีมชาติชุดใหญ่บ้างแล้ว แต่ยังไม่เคยลงสนามเลยสักนัด
ขณะที่ มาร์โค บัลลินี บิ๊ก เซอร์ไพรส์ของทีมชุดนี้ นี่คือครั้งแรกของแนวรับลูกครึ่งอิตาลี กับช้างศึกชุดซีเนียร์
เมื่อมองจากประสบการณ์ ดอเลาะ คือผู้บัญชาการในแผงหลังแน่นอน โดยคู่ขาน่าจะเป็น ชินภัทร ที่ลงสนามอย่างสม่ำเสมอในระดับสโมสรกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เมื่อช่วงเลกแรก แล้วต่อด้วย ราชบุรี ตอนเลกที่สอง
ตัวจริงที่คาด: ชินภัทร ลีเอาะ และ เอเลียส ดอเลาะ
ฟูลแบ็ก
นักเตะที่เรียกติดทีม:
– ศุภนันท์ บุรีรัตน์ (การท่าเรือ เอฟซี)
– สันติภาพ จันทร์หง่อม (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
– ศศลักษณ์ ไหประโคน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
– อิรฟาน ดอเลาะ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
ในตำแหน่งฟูลแบ็ก แม้ฝั่งขวาจะไร้ชื่อ นิโคลัส มิคเคลสัน แต่ว่า ศุภนันท์ บุรีรัตน์ นั้นพร้อมทำหน้าที่แทน โดยมี สันติภาพ จันทร์หง่อม ที่คัมแบ็กสู่ทีมชาติอีกครั้งรอสแตนด์บาย
ส่วนฟากซ้าย ศศลักษณ์ ไหประโคน ที่ถอนตัวจากทัพช้างศึกชุด ฟีฟ่า เดย์ มีนาคม นั้นจะครองสัมปทานพื้นที่ไปอีกนาน หากว่า เควิน ดีรมย์รัม ยังไม่ถูกเรียกตัวสู่ทีม
ทั้งนี้ อิรฟาน ดอเลาะ นักเตะสารพัดประโยชน์จาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด สามารถขยับมายืนฟูลแบ็กได้เช่นกัน หากว่า ศศลักษณ์ ไม่พร้อมลงสนาม
ตัวจริงที่คาด: ศุภนันท์ บุรีรัตน์ กับ ศศลักษณ์ ไหประโคน
กองกลาง
นักเตะที่เรียกติดทีม:
– คคนะ คำยก (เมืองทอง ยูไนเต็ด)
– ชนาธิป สรงกระสินธ์ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
– เบนจามิน เดวิส (อุทัยธานี เอฟซี)
– พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
– พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี (การท่าเรือ เอฟซี)
– วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (การท่าเรือ เอฟซี)
แดนกลางน่าประหลาดใจมากๆ ที่ มาซาทาดะ อิชิอิ ไม่เรียก วีระเทพ ป้อมพันธุ์ นักเตะที่เขาใช้งานมากที่สุดนับตั้งแต่รับงานกุนซือทีมชาติไทย ซึ่งนั่นอาจจะเพราะต้องการให้คนอื่นๆ ได้เรียนรู้แท็กติกที่เขาต้องการ
อย่างไรก็ตาม ขาประจำอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี และ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ยังคงเป็นแกนหลัก ซึ่งสองรายแรกน่าจะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงแน่ๆ
ดังนั้นจึงเหลืออีกหนึ่งคนที่จะทำหน้าที่เชื่อมเกมในแผงมิดฟิลด์ ซึ่งโดยตำแหน่ง พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ที่กลับมาติดทีมชาติอีกหน คงจะได้รับเลือกให้ลงเล่น เนื่องจาก เบนจามิน เดวิส กับดาวรุ่งฟอร์มร้อนแรงอย่าง คคนะ คำยก นั้นหนักไปทางการเล่นเกมรุกมากกว่า
ทั้งนี้ เดวิส และ คคนะ จะได้โอกาสร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจาก ชนาธิป ที่รับบทจอมทัพนั้นอาจจะอยู่ในสนามไม่ครบ 90 นาที ดังนั้นพวกเขาจึงมีสิทธิ์ที่จะได้สำแดงเดชนั่นเอง
ตัวจริงที่คาด: พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, ชนาธิป สรงกระสินธ์
ปีก
นักเตะที่เรียกติดทีม:
– เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ (เซเรโซ่ โอซาก้า, ญี่ปุ่น)
– สุภโชค สารชาติ (ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร, ญี่ปุ่น)
– เอกนิษฐ์ ปัญญา (เอฮิเมะ เอฟซี, ญี่ปุ่น)
ผู้เล่นตำแหน่งริมเส้นของทีมชาติไทย ชุด ฟีฟ่า เดย์ มิถุนายน 2025 นั้นนำเข้าแข้งจากญี่ปุ่น ล้วนๆ และทุกๆ คนจะได้ลงสนามอย่างแน่นอน
เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ กลับมาติดทีมชาติชุดใหญ่อีกครั้ง หลังรับใช้ช้างศึกหนล่าสุดเมื่อ คิงส์ คัพ 2024 และเขาน่าจะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในตำแหน่งกองหน้ากึ่งปีกทางฝั่งขวา
ส่วนฟากซ้าย สุภโชค สารชาติ และ เอกนิษฐ์ ปัญญา จะเบียดแย่งกันลงสนาม ทว่าแนวรุกจาก คอนซาโดเล่ ซัปโปโร มีภาษีดีกว่า เพราะเล่นมาต่อเนื่องในพื้นที่นี้ จึงจับจองอีกหนึ่งคน
นอกจาก 3 ราย ข้างต้น เบนจามิน เดวิส หรือแม้แต่ อิรฟาน ดอเลาะ, ศศลักษณ์ ไหประโคน, คคนะ คำยก, กรวิชญ์ ทะสา, ปรเมศย์ อาจวิไล รวมไปถึง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ก็ขยับมาเล่นริมเส้นได้เช่นกัน
ตัวจริงที่คาด: เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ กับ สุภโชค สารชาติ
กองหน้าตัวเป้า
นักเตะที่เรียกติดทีม:
– กรวิชญ์ ทะสา (เมืองทอง ยูไนเต็ด)
– ปรเมศย์ อาจวิไล (เมืองทอง ยูไนเต็ด)
– ศุภชัย ใจเด็ด (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
จากจำนวน 3 คน ที่ มาซาทาดะ อิชิอิ เรียกตัวมา ศุภชัย ใจเด็ด อาจจะทำสกอร์ได้มากที่สุดในฤดูกาล 2024-25 แต่ต้องยอมรับว่าฟอร์มการเล่นส่วนตัวยังเป็นรอง ปรเมศย์ อาจวิไล ที่กำลังดีวันดีคืนขึ้นเรื่อยๆ
ศูนย์หน้ากิเลนผยองเป็นแนวรุกที่ครบเครื่อง ไปกับบอลได้ดี, คล่องตัวสูง,แข็งแกร่งและยังเล่นร่วมกับเพื่อนได้กลมกล่อม ดังนั้นหัวหอกตัวเป้าของทีมชาติไทย ชุด มิถุนายน 2025 จึงน่าจะเป็น ปรเมศย์ ที่อยู่ในช่วงพีกของอาชีพ
ส่วน กรวิชญ์ ที่กลับมามีชื่อในทัพช้างศึกอีกครั้ง เพราะฟอร์มเปล่งปลั่งกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด นั้นน่าจะถูกขยับไปยืนริมเส้นมากกว่าที่จะลงสนามในฐานะกองหน้า
ตัวจริงที่คาด: ปรเมศย์ อาจวิไล
,
